วันจันทร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2556


ประวัติความเป็นมาของโรงเรียนเทพศิรินทร์ เชียงใหม่


         ประวัติโรงเรียน               
 โรงเรียนเทพศิรินทร์  เชียงใหม่  เดิมชื่อโรงเรียนน้ำบ่อหลวงวิทยาคม
ได้เริ่มก่อตั้งขึ้นจากคณะสงฆ์  กำนันผู้ใหญ่บ้าน ครู พ่อค้าคหบดี  ในตำบลสัน-กลาง ตำบลบ้านแม และตำบลยุหว่า  ซึ่งได้มีความเห็นร่วมกันว่า สมควรจัดตั้งโรงเรียนมัธยม-ศึกษาประจำตำบลขึ้นโดยใช้พื้นที่สาธารณะหน้า วัดวนาราม-น้ำบ่อหลวง หมู่ที่ 5 ตำบลสันกลาง (หมู่ที่ 2 ตำบลน้ำบ่อหลวงในปัจจุบัน)  โดยได้เสนอผ่านอำเภอสันป่าตอง    ตามหนังสือที่   ชม.61/4520    ลงวันที่ 13 พฤศจิกายน  2521  และกรมสามัญศึกษาได้ประกาศให้ตั้งโรงเรียนมัธยมศึกษาประจำตำบลขึ้น  ใช้ชื่อ "โรงเรียนน้ำบ่อหลวงวิทยาคม" ลงวันที่ 12 กุมภาพันธ์2522  และได้เริ่มก่อสร้างอาคารเรียนชั่วคราว 2 หลัง  และห้องส้วม  ขนาด 3 ที่นั่งโดยได้รับบริจาคจากประชาชนในท้องที่ 3 ตำบล มีนายโสภา  สุวรรณศรีคำศึกษาธิการอำเภอในขณะนั้น  รักษาราชการแทน    ในตำแหน่งครูใหญ่   ต่อมากรมสามัญศึกษาได้ส่งนายองอาจ  เจริญเวช มาเป็นครูใหญ่  มีครู 5 คนเปิดสอนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีนักเรียนรุ่นแรก 45 คน  ต่อมาในปี 2530 ได้รับคัดเลือกเข้าในโครงการ    มพช.2 รุ่นที่ 2       จึงได้รับงบประมาณก่อสร้างอาคารเรียน  โรงฝึกงาน  และปรับปรุงบริเวณ   โรงเรียนน้ำบ่อหลวงวิทยาคมได้รับการรับรองเป็นโรงเรียนต้นแบบโรงเรียนในฝันในปี พ.ศ. 2548    ปัจจุบันเปิดสอนในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึง ปีที่ 6                เข้าร่วมเครือข่ายโรงเรียนเทพศิรินทร์  ในปีการศึกษา 2550 โดยได้รับความเห็นชอบและสนับสนุน   จากคณะกรรมการโรงเรียนเทพศิรินทร์  และสมาคมนักเรียนเก่าเทพศิรินทร์   ในพระบรมราชูปถัมภ์   โรงเรียนเทพศิรินทร์  เชียงใหม่   เป็นโรงเรียนเครือข่าย ลำดับที่ 8 โดยเริ่มนับจาก           
ลำดับที่ 1 โรงเรียนเทพศิรินทร์                       
ลำดับที่ 2 โรงเรียนเทพศิรินทร์ร่มเกล้า                                             
ลำดับที่ 3 โรงเรียนเทพศิรินทร์คลองสิบสาม  ปทุมธานี
ลำดับที่ 4 โรงเรียนเทพศิรินทร์  นนทบุรี
ลำดับที่ 5 โรงเรียนเทพศิรินทร์  พุแค                                         
ลำดับที่ 6 โรงเรียนเทพศิรินทร์ลาดหญ้า  กาญจนบุรี                         
ลำดับที่ 7 โรงเรียนเทพศิรินทร์  ขอนแก่น 


วิสัยทัศน์
โรงเรียนเทพศิรินทร์  เชียงใหม่  เป็นแหล่งเรียนรู้เพื่อพัฒนาผู้เรียน  ให้มีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา  โดยมุ่งเน้นความสามารถด้านเทคโนโลยี  ภาษาต่างประเทศและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและสาธารณสมบัติ


พันธกิจ
  1. พัฒนาคุณภาพของผู้เรียนให้ได้ระดับมาตรฐานการศึกษา
  2. พัฒนาครูให้มีความรู้  ความสามารถตามจรรยาบรรณและมาตรฐานวิชาชีพ
  3. พัฒนาระบบบริหารการจัดการ
  4. พัฒนาสภาพบรรยากาศ  สิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียน


 เป้าประสงค์
 นักเรียนมีคุณภาพตามมาตรฐานคุณภาพการศึกษา  มีความสามารถด้านเทคโนโลยี  ภาษาต่างประเทศ  และมีจิตสำนึกในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและสาธารณสมบัติ

                                                        
                                                                 ตราประจำโรงเรียน เทพศิรินทร์ เชียงใหม่

         ภาพอาทิตย์อุทัยทอแสงบนพื้นน้ำทะเล หมายถึง ภาณุรังสี” และ วังบูรพาภิรมย์” โดย ภาณุรังสี” นี้เป็นพระนามของสมเด็จพระราชปิตุลาบรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้าภาณุรังสีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุ์วงศ์วรเดช ผู้ทรงประทานตรานี้ให้แก่โรงเรียนเมื่อปี พ.ศ. 2467 พระองค์ทรงมีพระคุณอเนกอนันต์แก่โรงเรียน อาทิทรงเป็นผู้ทูลขอให้ทรงสถาปนาโรงเรียนต่อองค์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อปี พ.ศ. 2538 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นการสถาปนาโรงเรียนแบบถาวรและทรงถือว่าโรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนในดูแลของพระองค์ด้วย
         อักษรประดิษฐ์  หมายถึง หม่อมแม้น ภาณุพันธุ์ ณ อยุธยา ชายาอันเป็นที่รักของสมเด็จพระราชปิตุลาบรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้าภาณุรังสีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุ์วงศ์วรเดช เพื่อเป็นอนุสาวรีย์ที่ระลึกถึงหม่อมแม้น ว่าถ้าไม่มีหม่อนแม้น การกำเนิด ตึกแม้นนฤมิตร ก็คงไม่มี ดังนั้นโรงเรียนเทพศิรินทร์ก็คงไม่มี จึงเป็นความหมายที่ควรระลึกไว้
                                                    

          ช่อดอกรำเพย หมายถึง พระนามแห่งองค์สมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี ทรงมีพระนามเดิมว่าพระองค์เจ้ารำเพยภมราภิรมย์ พระบามราชชนีของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระราชปิตุลาบรมพงศาภิมุข ซึ่งทั้งสองพระองค์ทรงสร้างพระอารามและโรงเรียนเพื่อเป็นพระราชกุศลแด่พระบรมราชชนี ทำเครื่องหมายดอกรำเพยไว้เพื่อให้คนรุ่นหลัง รู้ไว้ว่าพระนามเทพศิรินทร์นี้ได้มาจากพระองค์ท่าน เป็นพระนามมหามงคลยิ่งควรรักษาไว้ให้ดี
                                                

 สีประจำโรงเรียน คือ สีเขียวและสีเหลือง” เป็นสีประจำวันพฤหัสบดี ตามตำราพิชัยสงคราม (สวัสดิรักษา) ซึ่งวันพฤหัสบดีนั้นเป็นวันประสูติของสมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี ในรัชกาลที่ 4 อีกทั้งยังเป็นสีของใบและดอกของต้นรำเพย ซึ่งเป็นพระนามเดิมของสมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี คือ พระองค์เจ้ารำเพยภมราภิรมย์
          ดอกรำเพย จึงถือเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของโรงเรียนเทพศิรินทร์
          พุทธสุภาษิตประจำโรงเรียน น สิยา โลกวฑฺฒโน” ความหมายคือ ไม่ควรเป็นคนรกโลก” เป็นพุทธสุภาษิตซึ่งสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ ญาณวรเถร) เจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทร์องค์ที่ 5 ได้ประสาทให้แก่โรงเรียน และท่านอธิบายความหมายของพุทธสุภาษิตบทนี้ว่า คนเราบางคน เกิดมารกโลก ทำนองเดียวกับติณชาติที่หาประโยชน์อะไรมิได้ ทำให้เสียเงินทองกำจัด และรกชัฏขวากหนาม บางอย่างเป็นศัตรูแก่โลกไม่เป็นประโยชน์ มนุษย์ที่ไม่มีเมตตากรุณา คอยแต่จะเบียดเบียยนผู้อื่น จัดว่าเป็นคนรกโลก อย่าเกิดมาเลยเสียดีกว่า สู้สัตว์บางชนิดก็ไม่ได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น